สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 14 เซนต์ แตะที่ 96.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.59 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ก่อนที่กลุ่มผู้นำยุโรปจะประชุมร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค
นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อรายงานที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3% จากเดือนพ.ค. สู่ระดับ 10.1 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 7.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปริมาณการผลิตของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นแซงหน้ารัสเซีย ที่ผลิตน้ำมันดิบได้ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตาดูการประชุมผู้นำยุโรป โดยคาดว่านายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก และประธานยูโรกรุ๊ป จะเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ของกรีซในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพื่อหารือกับคำร้องขอของนายแอนโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ที่ต้องการขยายโครงการปรับงบประมาณเป็นเวลา 2 ปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีซามาราสจะเดินทางไปยังเยอรมนีและฝรั่งเศสในวันที่ 24-25 ส.ค. ภายหลังจากที่นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประชุมร่วมกันเสร็จสิ้นในววันที่ 23 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข่าวที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ หารือกันเกี่ยวกับการแผนการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ในปีนี้ เมื่อราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดบ 4 ดอลลาร์/บาร์เรล และสหภาพยุโรป เตรียมใช้มาตรการระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ในปริมาณปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง