สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากประเด็นวิกฤตหนี้ยุโรปได้กลับเข้ามาเป็นปัจจัยลบต่อตลาดอีกครั้ง หลังจากธนาคารกลางเยอรมนีได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แผนการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ขยับลง 4 เซนต์ ปิดที่ 95.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.02-96.53 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 113.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 112.87-114.70 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้นสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตในทะเลเหนือปรับตัวลดลง และคาดว่าจะลดลงอีก 17% ในเดือนก.ย. เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมัน WTI ยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย และความขัดแย้งด้านนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลงทันทีที่ธนาคารกลางเยอรมนีได้แสดงความเห็นวิจารณ์ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่เตรียมจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประเทศยุโรปที่ประสบปัญหา โดยธนาคารกลางเยอรมนีระบุว่า การซื้อพันธบัตรดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสี่ยงตามมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ถึงความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 100,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.3%