สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 97.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.26-97.54 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 114.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 113.53-115.27 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค.ร่วงลง 5.41 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 360.75 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 992,000 บาร์เรล สู่ระดับ 125.21 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 962,000 บาร์เรล แตะที่ 202.74 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.4% แตะที่ 91.2% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.3% เท่านั้น
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเฟดจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากจำเป็น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน ขณะเดียวกันรายงานการประชุมระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายหลายคนของเฟดได้สนับสนุนให้มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 ในอนาคตอันใกล้นี้
นักลงทุนจับตาดูพายุโซนรอน "ไอแซค" หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า พายุโซนร้อนไอแซคได้มีการก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติค และอาจทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนในอีก 2-3 วันที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริดา หรือเคลื่อนตัวเข้าใกล้กับสถานที่จัดการประชุมประจำปีของพรรครีพับลิกันในเมืองแทมปา มลรัฐฟลอริด้า