สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐคาดว่าพายุไอแซคจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 1 จากเดิมที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 2 นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวลง 68 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 95.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.41-97.72 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 112.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.56-115.50 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากศุนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐคาดการณ์ว่า พายุไอแซคจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 1 จากเดิมที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 2 ในขณะที่เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ตอนใต้ของรัฐนิวออลีน
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนส.ค.ปรับตัวลงแตะ 102.3 จาก 103.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย หลังจากมีรายงานว่าพายุไอแซคได้เคลื่อนตัวข้ามอ่าวเม็กซิโกเมื่อวานนี้ ส่งผลให้บริษัทพลังงานหลายแห่งของสหรัฐพากันปิดการดำเนินงานที่โรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโก โดยมีการประมาณการว่า กำลังการกลั่นในอ่าวเม็กซิโกลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดย EIA จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ ส่วนสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค.ร่วงลง 5.41 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 360.75 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข่าวที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ หารือกันเกี่ยวกับการแผนการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ในปีนี้ เมื่อราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดบ 4 ดอลลาร์/บาร์เรล และสหภาพยุโรป เตรียมใช้มาตรการระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน