สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.1% แตะที่ 96.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.29 น.ตามเวลาในลอนดอนวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันที่ตลาดนิวยอร์ก เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันสหรัฐอาจลดลง ตลอดทั้งพายุโซนร้อนไอแซคที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก และเหตุเพลิงใหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในเวเนซูเอลา
ศูนย์พายุเฮอร์ริเคนของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนไอแซคซึ่งมีความเร็วลมพายุใกล้เคียงกับพายุเฮอร์ริเคนกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่แนวชายฝั่งของอ่าวเม็กซิโก โดยรายงานของศูนย์ทางเว็บไซต์เมื่อเวลา 4.54 น.ตามเวลานิวยอร์กระบุว่า พายุไอแซคยังคงความเร็วลมสูงสุด 70 ไมล์ต่อชั่วโมง ขณะที่มีการขยายคำเตือนเกี่ยวกับพายุให้ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกจนถึงเมืองคาเมรอน รัฐหลุยเซียนาของสหรัฐ
ส่วนเหตุเพลิงใหม้ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงที่โรงกลั่น Amuay ในเวเนซูเอลา ซึ่งมีกำลังการกลั่น 645,000 บาร์เรลต่อวัน ได้ยืดเยื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 48 ราย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนการแสดงสุนทรพจน์ในการที่ประชุมประจำปีในรัฐไวโอมิงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดย EIA จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ ส่วนสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค.ร่วงลง 5.41 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 360.75 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล