ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (31 ส.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวลดลง เนื่องจากเทรดเดอร์เทขายสัญญาทำกำไรก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดแรงงานของสหรัฐ
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 8.75 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 7.9975 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.5 เซนต์ หรือ 1.39% แตะ 8.895 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 17.565 ดอลลาร์/บุชเชล
แม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT กลับปิดในแดนลบ โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำและน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐที่ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สัญญาธัญพืชยังได้รับแรงกดดันอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าใดๆจากที่ประชุมเจ้าหน้าที่เกษตรของรัสเซีย ขณะที่ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์คาดหวังว่าสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในบริเวณทะเลดำอาจทำให้รัสเซียลดการส่งออกข้าวสาลีในปีนี้ แต่ในเมื่อไม่มีการเปิดเผยตัวเลขปรับทวนครั้งใหม่ จึงทำให้เทรดเดอร์หลายรายผิดหวัง
ช่วงขาลงในตลาดข้าวสาลียังสร้างแรงกดดันให้สัญญาธัญพืชอื่นๆด้วย แต่ก็ไม่มากนัก ขณะที่สัญญาข้าวโพดยังสามารถยืนอยู่ที่ระดับราว 8 ดอลลาร์/บุชเชลได้อย่างแข็งแกร่ง และสัญญาถั่วเหลืองอ่อนแรงเล็กน้อย จากระดับปิดวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์
เทรดเดอร์ยังคงจับตาดูความคืบหน้าของพายุโซนร้อนไอแซคอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจเข้าปกคลุมพื้นที่ตอนกลางในเขตมิดเวสต์ พร้อมด้วยฝนที่ตกอย่างหนัก แม้เกิดภัยแล้งในฤดูร้อนปีนี้ แต่ฝนก็ไม่ได้ตกตามฤดูกาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อพืชผลส่วนใหญ่ และเทรดเดอร์กังวลว่าพายุไอแซคอาจสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตในส่วนที่เหลือ สำนักข่าวซินหัวรายงาน