ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สัญญาข้าวสาลีขยับลง เนื่องจากเทรดเดอร์พิจารณาถึงผลกระทบจากอากาศร้อนในฤดูร้อนปีนี้ และดอลลาร์ที่แข็งค่าสร้างแรงกดดันให้แก่ตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 8.05 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับลง 0.75 เซนต์ หรือ 0.08% แตะ 8.8875 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 11.75 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 17.6825 ดอลลาร์/บุชเชล
เทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรยังให้ความสนใจเกี่ยวกับผลกระทบของภัยแล้งในฤดูร้อนปีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองจำนวนมาก
สำหรับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งได้กระทบผลผลิตข้าวโพดอย่างมาก และเกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวโพดในสัปดาห์นี้ ขณะที่เทรดเดอร์ได้รับข่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลผลิตข้าวโพดลดลงอย่างมาก ขณะเดียวกันเทรดเดอร์รอดูรายงานภาวะการเก็บเกี่ยวจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เพื่อประเมินข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยชี้นำการซื้อขายในสัปดาห์นี้
ด้านสัญญาข้าวโพดยังได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้น เนื่องจาก USDA เปิดเผยข่าวว่าญี่ปุ่นซื้อข้าวโพดฤดูกาล 2556/2557 จำนวน 180,000 ตันจากผู้ส่งออกภาคเอกชนสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ว่ารัฐบาลอาร์เจนตินาอนุมัติการส่งออกข้าวโพดฤดูกาล 2554/2555 จำนวน 2.75 ตันได้สกัดความต้องการผลผลิตข้าวโพดสหรัฐ
นอกจากนี้ สัญญาข้าวสาลียังปรับตัวตามมุมมองด้านอุปสงค์ในต่างประเทศด้วย โดยเมื่อไม่นานนี้ตลาดข้าวสาลีดีดขึ้นรับรายงานว่าผลผลิตข้าวสาลีในภูมิภาคทะเลดำลดลงจากภัยแล้ง และข่าวจากระทรวงเกษตรรัสเซียที่ว่าผลผลิตข้าวสาลีในประเทศร่วงลง 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วนั้น อาจหนุนความต้องการข้าวสาลีสหรัฐ
สำหรับสัญญาถั่วเหลือปรับขึ้นมากที่สุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่งและผลผลิตของสหรัฐที่ลดลง หนุนภาวะการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยข่าวที่ว่าสภาพอากาศร้อนและแห้งได้ลดการงอกของฝักถั่วลงอย่างมากในพื้นที่บางส่วน ส่งให้สัญญาส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งเข้าใกล้สถิติสูงสุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน