สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ และการประกาศซื้อพันธบัตรยูโรโซนแบบไม่จำกัดจำนวนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 95.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.59-97.71 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 113.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 112.63-115.15 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค.ร่วงลง 7.43 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 357.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนไอแซคได้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันและการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 993,000 บาร์เรล สู่ระดับ 127.08 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.33 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 198.89 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 5.1% สู่ระดับ 86.1% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 2.4%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีประกาศโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนแบบไม่จำกัดจำนวนภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ ด้วยเป้าหมายที่จะฉุดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศต่างๆในยูโรโซนให้ลดลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ย. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 365,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้
ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง