สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกปรับตัวลง 4 เซนต์ แตะที่ 96.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.12 น.ในลอนดอนวันนี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 12 เซนต์แตะที่ 96.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายใกล้เคียงระดับปิดสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ยังคงวิตกกังวลว่า แผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินของยุโรปอาจจะสะดุดลง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่เฟดจะเริ่มประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าอาจจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์ระบุว่า เฟดอาจจะประกาศแผนซื้อทรัพย์สินหรือมาตรการ QE ในรอบที่ 3 หลังเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ หลังจากที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยเมื่อสีปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 96,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง และเทียบกับการเพิ่มขึ้น 141,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 950,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.4%