ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) สัญญาข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เผยให้เห็นถึงความต้องการธัญพืชทั้งสองชนิดที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่สัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลง เนื่องจากการบริโภคที่ลดลงได้สร้างแรงกดดันให้แก่การซื้อขายเมื่อคืนนี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 8.25 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 7.695 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 6.25 เซนต์ หรือ 0.71% แตะที่ 8.9 ดอลลาร์/บุชเชล และ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 44.25 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 17.4575 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CME (Chicago Mercantile Exchange) ระบุว่า สัญญาข้าวข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงอย่างหนักจนถึงช่วงปิดตลาด และแตะระดับต่ำสดในรอบ 7 สัปดาห์ ภายหลัง USDA เปิดเผยรายงานวานนี้
สำหรับการผลิตน้ำมันเอธานอลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. เฉลี่ยอยู่ที่ 816,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับข้าวโพดที่ใช้ในการผลิตน้ำมันเอธานอลในสัปดาห์ที่แล้ว มีการประเมินไว้ที่ 86.92 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นปริมาณที่ต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลงอย่างหนักในระหว่างวัน แต่มีระดับปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อคืนนี้และหนุนบรรยากาศไปในเชิงบวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากความเห็นของรัฐมนตรีเกษตรของยูเครนซึ่งบ่งชี้ว่า ยูเครนจะผลิตข้าวสาลีเพียง 14.5 ล้านตัน น้อยกว่าตัวเลขประมาณการของ USDA ที่ 15.50 ล้านตัน
สำหรับตลาดถั่วเหลือง รายงานซึ่งระบุว่าสภาพอากาศแห้งในพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลางของบราซิลอาจทำให้การเพาะปลูกถั่วเหลืองในสัปดาห์หน้าล่าช้านั้น เป็นปัจจัยหนุนให้แก่ถั่วเหลืองสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน