สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนต.ค.ขยับขึ้นเพียง 7 เซนต์ แตะที่ 97.08 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ โดยสัญญาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 วัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการหดตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.99 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 359.09 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.48 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 128.55 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 950,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.18 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 197.72 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.80 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.4% สู่ระดับ 84.7% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐได้ส่งเรือรบ USS Laboon และ USS McFaul ซึ่งเป็นเรือรบติดขีปนาวุธร้ายแรงของสหรัฐ เข้าสู่น่านน้ำลิเบียแล้วในขณะนี้ ภายหลังจากกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธชาวลิเบียได้บุกเข้าโจมตีสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเบงกาซี และได้สังหารนายเจ คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำลิเบีย และเจ้าหน้าที่สหรัฐอีก 3 คน