ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า และหนุนภาวะการซื้อขายในตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 7.7375 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 12 เซนต์ หรือ 1.34% แตะที่ 9.02 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 17.4725 ดอลลาร์/บุชเชล
ดอลลาร์อ่อนค่าในระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ภายหลังเฟดออกนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ หรือ QE3 ประกอบด้วย การเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตราบใดที่เฟดมองว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะทำให้การซื้อบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น เทรดเดอร์เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของเฟดจะเป็นปัจจัยนหนุนให้แก่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะยาว
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (CME Chicago Mercantile Exchange) ระบุว่าสัญญาข้าวโพดปิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย และได้แรงหนุนจากตลาดข้าวสาลีที่ปรับตัวแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามการอ่อนแรงในตลาดถั่วเหลืองลดแรงบวกสัญญาข้าวโพด
ขณะเดียวกันแนวคิดที่ว่าความต้องการข้าวสาลีจากต่างประเทศกำลังกระเตื้องขึ้น และดอลลาร์ที่ร่วงหนักนั้น ได้หนุนบรรยากาศไปในเชิงบวกมากขึ้น โดยสภาพอากาศแห้งในออสเตรเลียถือเป็นแรงหนุนในตลาดข้าวสาลีเช่นกัน
สำหรับในตลาดถั่วเหลืองนั้น สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับขึ้นเล็กน้อยเมื่อปิดตลาด โดยสัญญาที่ส่งมอบในปี 2556 ปรับตัวสูงขึ้นจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แห้งกว่าปกติสำหรับการเพาะปลูกถั่วเหลืองในอเมริกาใต้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน