ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.33 เหตุวิตกอุปสงค์ชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 19, 2012 07:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน หลังจากมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะซบเซาลง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 95.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอนร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 112.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการที่กระแสการตอบรับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มอ่อนแรงลง และจากความวิตกกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ รวมทั้งวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง และจะฉุดอุปสงค์พลังงานให้หดตัวลงด้วย

ซิตี้กรุ๊ปปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.6% จากระดับ 8% เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศชะลอตัวลง ขณะที่บาร์เคลย์ อินเวสต์เมนท์ แบงก์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 8.1%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียวางแผนที่จะปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันให้อยู่ในระดับสูงสุด เพื่อหนุนอุปทานพลังงานโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากทำเนียบขาวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐยังคงหารือกันเกี่ยวกับการระบายน้ำมันดิบออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR)

ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ในคลัง SPR ในปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจจะเพิ่มขึ้น 210,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจขะเพิ่มขึ้น 820,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 1.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ