สัญญาทองคำขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูง ในขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินผลพวงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กลายเป็นธนาคารกลางรายล่าสุดที่ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 60 เซนต์ แตะที่ 1,770.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย
คณะกรรมการนโยบายการเงินของบีโอเจมีมติเป็นเอกฉันท์ในการขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 80 ล้านล้านเยน จากเดิม 70 ล้านล้านเยน พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่บีโอเจตัดสินใจดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่บีโอเจประกาศขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 5 ล้านล้านเยน สู่ระดับ 70 ล้านล้านเยนในการประชุมนโยบายเมื่อเดือนเม.ย.
การตัดสินใจของบีโอเจในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมผ่านทางการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ซึ่งนักลงทุนเรียกกันว่าการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนนี้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เปิดเผยโครงการซื้อพันธบัตรรอบใหม่ที่เรียกว่า "Outright Monetary Transactions" สำหรับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นแบบเปิดกว้างโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศที่ประสบปัญหาทางการเงิน เช่น สเปน และ อิตาลี ปรับตัวลดลงจากระดับสูง
โดยปกติแล้ว ทองคำจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงิน เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อโลหะมีค่า เพราะวิตกว่ามาตรการเหล่านี้อาจทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนมักใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่างๆ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประกาศใช้ QE แต่ละครั้งที่ผ่านมาส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อไม่รุนแรงนัก ดังนั้นทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวตามปัจจัยพื้นฐาน เช่น ค่าเงิน มากกว่า
สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสกุลเงินเยน
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นไม่เป็นผลดีต่อราคาทอง เพราะทำให้ทองซึ่งซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ นักลงทุนจึงสนใจเข้าซื้อทองคำลดลง