สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนต.ค.ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ แตะที่ 90.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.52 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีภาคการผลิตของจีนและยอดส่งออกของญี่ปุ่นหดตัวลง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอุปสงค์พลังงานจะซบเซาลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอยู่ก่อนแล้ว นับตั้งแต่สารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ย. พุ่งขึ้น 8.53 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 367.63 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 210,000 บาร์เรล
จากนั้นสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอีกหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 47.8 จากข้อมูลขั้นสุดท้ายที่ 47.6 ในเดือนส.ค. แต่ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 7.541 แสนล้านเยนในเดือนส.ค. เนื่องจากยอดการส่งออกไปยังยุโรปและจีนชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยตัวเลขขาดดุลลดลง 0.3% จากปีก่อน หลังจากยอดนำเข้าลดลง 5.4% แตะระดับ 5.8000 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 3 ปี และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ยอดส่งออกเดือนส.ค.หดตัวลง 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 5.0459 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน