สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจทำให้อุปสงค์พลังงานลดน้อยลงด้วย ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอ ขณะที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนหดตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 91.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.66-92.37 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 110.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.10-110.60 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. ลดลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ 382,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 375,000 ราย แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังไม่ยั่งยืน
เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 47.8 จากข้อมูลขั้นสุดท้ายที่ 47.6 ในเดือนส.ค. แต่ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนในเดือนก.ย.หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่มาร์กิตเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนก.ย. จาก 46.3 ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้มีรายงานว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 7.541 แสนล้านเยนในเดือนส.ค. และยอดส่งออกเดือนส.ค.หดตัวลง 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 5.0459 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียซึ่งระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ -1.9 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ -7.1 จุด