ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ย.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองต่างปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าและความต้องการผลผลิตจากต่างแดนหนุนภาวะการซื้อขายในตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 2. 25 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 7.4825 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้นอย่างมาก 17.75 เซนต์ หรือ 2.02% แตะที่ 8.9725 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 16.2175 ดอลลาร์/บุชเชล
ภายหลังสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรร่วงลงในช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ก็สามารถพลิกกลับมาในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าในภาพรวมของสัปดาห์ที่แล้วสัญญายังปรับตัวลดลง โดยสัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลง 33.75 เซนต์ ขณะที่สัญญาข้าวสาลีร่วงลงเช่นกัน 27 เซนต์ และสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลง 1.1725 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาธัญพืชได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากในระหว่างช่วยการซื้อขายราคาทองคำและน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้แก่ตลาดเนื่องจากทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
สำหรับสัญญาข้าวสาลีปรับตัวมากที่สุดในระหว่างวัน เนื่องจากเทรดเดอร์ขานรับข้อมูลในรายงานที่ว่า การส่งออกในภูมิภาคทะเลดำลดลงอันเนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในแถบบริเวณดังกล่าว โดยความคาดหวังของเทรดเดอร์ที่ว่ารัสเซียอาจปรับลดการส่งออกเพื่อเป็นการปรับตัวตามปริมาณการผลิตที่ลดลงนั้น ทำให้ภาวะการซื้อขายในตลาดข้าวสาลีสหรัฐให้เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากหากรัสเซียปรับลดการส่งออกจะหนุนความต้องการข้าวสาลีสหรัฐเพิ่มขึ้น
ทางด้านสัญญาถั่วเหลืองก็ได้รับแรงหนุนจากความต้องการในต่างประเทศเช่นกัน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าความต้องการถั่วเหลืองจากจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ความต้องการถั่วเหลืองได้บดบังข้อมูลในรายงานผลผลิตถั่วเหลืองมากเกินคาดการณ์ และทำให้สัญญาถั่วเหลืองขยับขึ้นมาได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน