ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองต่างปรับตัวลดลง เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและปัจจัยสภาพอากาศสร้างแรงกดดันให้แก่ภาวะการซื้อขาย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 7.4475 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.รูดลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.59% แตะที่ 8.92 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ตกลง 11.75 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 16.1 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาธัญพืชทั้งหมดปรับตัวลดลงเล็กน้อย สอดคล้องกับการร่วงลงในตลาดอื่นๆเป็นส่วนใหญ่
ข่าวที่ส่งสัญญาณลบในกับยูโรโซนก่อให้เกิดปัจจัยเชิงลบนอกตลาด โดยทำให้หุ้น รวมทั้งราคาน้ำมันดิบและทองคำสหรัฐปรับตัวลดลงปานกลาง ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าอย่างมากจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูโรโซน และส่งแรงกดดันส่วนหนึ่งมายังตลาดธัญพืช โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าถือเป็นปัจจัยเชิงลบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรเนื่องจากทำให้ราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับประเด็นสภาพอากาศกระทบภาวะการซื้อขายเช่นกัน เนื่องจากข่าวที่ระบุว่าเกิดฝนตกในอเมริกาใต้ได้สกัดแรงหนุนก่อนหน้านี้สำหรับข้าวโพดและถั่วเหลืองสหรัฐ
ด้านเทรดเดอร์ข้าวโพดยังมีความวิตกกังวลด้านความต้องการข้าวโพดสหรัฐที่ซบเซาจากราคาที่ขึ้นสูงในฤดูร้อน อย่างไรก็ดี ข่าวที่ระบุว่าเกาหลีใต้ซื้อเข้าโพดสหรัฐ 65,000 ตันเมื่อคืนนี้ช่วยสกัดช่วงขาลงในสัญญา นอกจากนี้ ขณะที่ราคาข้าวสาลีสหรัฐยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง เทรดเดอร์จึงมีมุมมองว่าเกษตรกรจำนวนมากขึ้นอาจจะหันไปสนใจข้าวโพดเพื่อเป็นวัตถุดิบในอาหารสัตว์
ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองก็ได้รับแรงกดดันเช่นกัน จากพยากรณ์อากาศว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในสหรัฐจะมีสภาพอากาศชื้น และเทรดเดอร์หลายรายเชื่อว่ารายงานภาวะการเก็บเกี่ยวของกระทรวงเกษตรสหรัฐจะระบุถึงความคืบหน้าในการเก็บเกี่ยวที่น่าพอใจ
เทรดเดอร์ข้าวสาลียังคงจับตามองภูมิภาคทะเลดำอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสัญญาณการปรับลดการส่งออกข้าวสาลีรัสเซีย อันเนื่องมาจากปริมาณการผลิตที่ลดลง หากรัสเซียลดการส่งออกข้าวสาลีก็จะช่วยหนุนการซื้อขายข้าวสาลีสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน