สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างซีเรียและตุรกี หลังจากมีรายงานว่าองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) มีแผนการที่จะปกป้องตุรกีจากการโจมตีของซีเรีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.06 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 92.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.29-92.91 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 114.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.97-114.72 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากองค์การนาโต้ได้วางแผนที่จะปกป้องตุรกีจากการโจมตีของซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านาโต้พร้อมที่จะใช้กำลังทางทหารเพื่อช่วยเหลือตุรกีหากจำเป็น ซึ่งสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การส่งออกน้ำมันจากบ่อน้ำมันในทะเลเหนือเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมีการซ่อมบำรุง
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่งหลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียยืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังผลิตน้ำมันในอัตรา 10 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อบรรเทาภาวะอุปทานตึงตัว และย้ำว่ากำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียจะสามารถตอบสนองความต้องการน้ำมันทั่วโลได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก ยกเว้นญี่ปุ่น จะขยายตัว 7.2% ในปี 2555 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ค.ที่ 7.6% ขณะที่ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น ในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6%
นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 320,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 220,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 88.2%