ภาวะตลาดน้ำมัน:น้ำมัน WTI ปิดบวก 82 เซนต์จากปัญหาตึงเครียดตุรกี-ซีเรีย

ข่าวต่างประเทศ Friday October 12, 2012 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นระหว่างตุรกีและซีเรียอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 92.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 91.09-92.94 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.38 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 115.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 114.42-116.02 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ต.ค. ร่วงลง 30,000 ราย มาอยู่ที่ 339,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 370,000 ราย

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากตุรกีได้ยึดคลังสินค้าบนเครื่องบินโดยสารของซีเรีย และจากรายงานที่ว่ามีการค้นพบชิ้นส่วนอาวุธและอุปกรณ์การสื่อสารทางทหาร ขณะเดียวกันมีรายงานว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ได้วางแผนที่จะปกป้องตุรกีจากการโจมตีของซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านาโต้พร้อมที่จะใช้กำลังทางทหารเพื่อช่วยเหลือตุรกีหากจำเป็น และสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวให้เกิดความกังวลว่าการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางอาจลดลง

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 366.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 3.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 120.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 320,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 534,000 บาร์เรล สู่ระดับ 195.4 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.5% สู่ระดับ 86.7% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะทรงตัว

EIA คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 จะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับเดียวกับในปี 2555 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปค โดยคาดว่าประเทศในกลุ่มนี้ที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือสหรัฐและแคนาดา

ทั้งนี้ EIA คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 7.5% สู่ระดับ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 11.44 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของแคนาดาจะเพิ่มขึ้น 8.3% แตะที่ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 4.9% สู่ระดับ 4.09 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า

นอกจากนี้ EIA คาดว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 89.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ 90.01 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ