สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย. ลดลง 11 เซนต์ แตะที่ 92.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 11.34 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของจีน ขยายตัว 14.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.82 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 12.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากเทียบเป็นรายเดือนพบว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ขยายตัว 1.46% จากเดือนส.ค.ซึ่งมีการขยายตัว 1.28%
นอกจากนี้ NBS เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบรายปี หลังจากขยายตัวรายปีที่ 8.9% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.เติบโตขึ้น 0.79% จากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 0.69% จากเดือนก่อนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่ง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.86 ล้าน บาร์เรล สู่ระดับ 369.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.22 ล้านบาร์เรล แตะที่ 118.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.72 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 197.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 450,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 87.4% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2%