ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยลบนอกตลาดส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งทำให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 7.56 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 9.5 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 8.6875 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 6.75 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 15.5325 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงทั่วทั้งกระดานเมื่อคืนนี้ จากผลประกอบการรายไตรมาสของภาคธุรกิจสหรัฐที่น่าผิดหวัง ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้น ทองคำ และน้ำมันดิบสหรัฐอย่างหนัก เมื่อพิจารณาจากภาวะการซื้อขายที่ย่ำแย่ จึงทำให้เทรดเดอร์นิยมลงทุนในดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าอย่างมากเมื่อคืนนี้ โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าถือเป็นปัจจัยลบอีกตัวหนึ่งในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากทำให้ราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากปัจจัยภายนอกตลาดที่ย่ำแย่ ทำให้สัญญาข้าวสาลีและข้าวโพดร่วงลงสอดคล้องกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่
ราคาข้าวโพดที่ลดลงเมื่อเร็วๆนี้ ยังเป็นผลมาจากความวิตกกังวลของเทรดเดอร์ถึงความต้องการข้าวโพดส่งออกสหรัฐที่อ่อนแอ ขณะที่เมื่อวานนี้มีรายงานเผยแนวโน้มความต้องการข้าวโพดสหรัฐที่ย่ำแย่ ขณะที่มีการเปิดเผยว่าปริมาณการผลิตน้ำมันเอธานอนลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 12
ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสวนทางธัญพืชอื่นๆ โดยสามารถต้านทานบรรยากาศภายนอกตลาดที่ซบเซา และปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนที่สำคัญจากมุมมองเกี่ยวกับความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐที่แข็งแกร่งของประเทศผู้น้ำเข้ารายสำคัญ อาทิ จีน แม้เทรดเดอร์จะจับตามองการแข่งขันของถั่วเหลืองที่มาจากประเทศผู้ผลิตในทวีปอเมริกาใต้อย่างบราซิลและอาร์เจนตินาอย่างต่อเนื่องก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน