ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 94 เซนต์หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 25, 2012 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์พลังงานหดตัว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการที่หดตัวลงในยูโรโซน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 84.94-87.47 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 107.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.80-109.34 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ต.ค.พุ่งขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 375.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 646,000 บาร์เรล สู่ระดับ 118.0 ล้านบาร์เรล แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.44 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 198.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 700,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 0.2% สู่ระดับ 87.2% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนปรับตัวลงที่ 45.8 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงแตะ 45.3 ในเดือนต.ค. จาก 46.1 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 46.2 จาก 46.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.1 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนต.ค.ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวต่อเนื่อง และแตะระดับต่ำสุดนับแต่กลางปี 2552

อย่าไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด หลังจากรัฐมนตรีพลังงานของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะยุติการส่งออกน้ำมันหากสหรัฐและยุโรปยังเดินหน้าคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านพลังงานทั่วโลก

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ทะยานขึ้น 5.7% จากเดือนส.ค. สู่ระดับ 389,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 385,000-386,000 ยูนิต นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐกำลังฟื้นตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ