สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนแซนดี้ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในเขตอีสต์โคสต์ต้องปิดทำการลง และทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดน้อยลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 74 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 85.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 109.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าพายุเฮอริเคนแซนดี้อาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งอุปสงค์และอุปทานพลังงาน โดยมีรายงานพยากรณ์อากาศว่า เฮอริเคนแซนดี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐเดวาแวร์และนิวเจอร์ซีในคืนวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ
แฮร์รี่ ชิลลิงกุยเรียน นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านน้ำมันของบีเอ็นพี พาริบาส์กล่าวว่า "โรงกลั่นและสถานีขนถ่ายน้ำมันหลายแห่งในเขตอีสต์โคสต์พากันปิดการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง เหมือนกับครั้งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อพายุเฮอริเคนไอรีนพัดถล่มเขตอีสต์โคสต์ในช่วงปลายเดือนส.ค.ปี 2554"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกือบ 70% ของโรงกลั่นน้ำมันในเขตอีสต์โคสต์ต้องปิดการดำเนินงาน โดยบริษัท ฟิลลิปส์ 66 รายงานว่าบริษัทได้ปิดโรงกลั่นน้ำมันในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งมีกำลังการผลิต 238,000 บาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ การปิดโรงกลั่นน้ำมันส่งผลให้สัญญาน้ำมันเบนซินและน้ำมันฮีทติ้งออยล์พุ่งขึ้น โดยสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 5.77 เซนต์ ปิดที่ 2.7568 ดอลลาร์/แกลลอน ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.74 เซนต์ ปิดที่ 3.1152 ดอลลาร์/แกลลอน