สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้น 65 เซนต์ แตะที่ 86.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 11.39 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้หลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการที่สดใสจะหนุนอุปสงค์พลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย
บีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลหลังจากผลประกอบการของบริษัทออกมาดีเกินคาด ขณะที่ดอยช์ แบงก์ เปิดเผยว่า รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์
นักลงทุนจับตาดูผลกระทบของพายุแซนดี้ หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุแซนดี้ได้เคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐนิวเจอร์ซีแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกในวันจันทร์ของสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทั้งนี้ อิทธิพลของพายุแซนดี้ทำให้เกือบ 70% ของโรงกลั่นน้ำมันในเขตอีสต์โคสต์ต้องปิดการดำเนินงาน โดยบริษัท ฟิลลิปส์ 66 รายงานว่าบริษัทได้ปิดโรงกลั่นน้ำมันในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งมีกำลังการผลิต 238,000 บาร์เรลต่อวัน
แฮร์รี่ ชิลลิงกุยเรียน นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านน้ำมันของบีเอ็นพี พาริบาส์กล่าวว่า โรงกลั่นและสถานีขนถ่ายน้ำมันหลายแห่งในเขตอีสต์โคสต์พากันปิดการดำเนินงานตามมาตรการเฝ้าระวัง เหมือนกับครั้งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อพายุเฮอริเคนไอรีนพัดถล่มเขตอีสต์โคสต์ในช่วงปลายเดือนส.ค.ปี 2554
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1-1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1-1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 200,000-250,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.4%