สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเป็นวันที่สองติดต่อกันอันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกสำหรับไตรมาสนี้ลง
IEA ระบุว่า กลุ่มประเทศโอเปกอาจต้องปรับลดกำลังการผลิตลงในไตรมาสสุดท้ายปีนี้เนื่องจากอัตราการขยายตัวของอุปสงค์ได้ชะลอตัวลง
นักวิเคราะห์ในสต็อกโฮล์มกล่าวว่า “ตลาดน้ำมันกำลังเข้าสู่ภาวะซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินของกรีซและภาวะหน้าผาทางการคลังในสหรัฐ"
โดยสถานการณ์ในสหรัฐนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้เชิญผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมาร่วมหารือที่ทำเนียบขาวเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff)
ทางด้านที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ได้เลื่อนพิจารณาประเด็นการให้ความช่วยเหลือแก่กรีซออกไปเป็นวันที่ 20 พ.ย. โดยยังไม่มีความชัดเจนว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินกรีซต่อไปหรือไม่
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ป คาดว่ากรีซจะใช้เวลาอีก 2 ปีในการบรรลุเป้าหมายทางการคลัง แม้ว่ากรีซยังคงต้องรอความช่วยเหลือทางการเงินที่มีความจำเป็นอย่างมาก โดยยังจำเป็นต้องมี “การประชุมนัดพิเศษ" ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เพื่อหารือถึงความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าว
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่แล้วในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นการเปิดเผยที่ล่าช้ากว่าปกติ 1 วัน เนื่องจากหน่วยงานราชการสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 12 พ.ย. เนื่องในวันทหารผ่านศึก โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรรัฐจะเพิ่มขึ้น