ณ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้น 6.40 ดอลลาร์ หรือ 0.37% แตะที่ 1,719.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดอลลาร์ร่วง 0.3% แตะ 1.3026 ดอลลาร์/ยูโร ณ เวลา 8.50 น.ในลอนดอน โดยก่อนหน้านั้น ดอลลาร์ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.3047 ดอลลาร์
ด้านสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเกือบทุกสกุลเงินหลัก ในขณะที่กรีซเตรียมใช้เงิน 1 หมื่นล้านยูโร (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อคืนพันธบัตรที่ได้มีการเสนอขายไปเมื่อต้นปีนี้ ด้วยความหวังที่จะลดภาระหนี้สินที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการให้เงินช่วยเหลือจากนานาประเทศในอนาคต
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรีซได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ เชิญชวนผู้ถือพันธบัตรให้นำพันธบัตรของตนมาเข้าร่วมการประมูล โดยให้ราคาซื้อสูงสุดเฉลี่ยที่ 34.1% สำหรับพันธบัตรที่มีกำหนดไถ่ถอนในช่วงปี 2567 - 2585
สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 50.6 จาก 50.2 ในเดือนต.ค. ซึ่งตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า และเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.6 จากระดับของเดือนต.ค.ที่ 55.5 ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และเป็นหลักฐานยืนยันว่าเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวขึ้น
ด้านเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์รายงานในวันนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายในเดือนพ.ย.ของจีน ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 49.5 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มดีดตัวขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มของเศรษฐกิจจีนปีนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในเวลา 22.00 ย.ตามเวลาประเทศไทย