ภาวะตลาดน้ำมันความเชื่อมั่นผู้บริโภค,ถกหนี้สหรัฐไม่คืบ ถ่วงน้ำมัน WTI ปิดลบ 33 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 8, 2012 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนแอ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจางบประมาณในสหรัฐ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงของประเทศในยุโรป ได้ถ่วงราคาน้ำมันให้กลับสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอยู่ช่วงหนึ่งเพราะได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลแรงงานสหรัฐเดือนพ.ย.ที่ออกมาดีเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 85.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาร่วงลง 2.98 ดอลลาร์ หรือ 3.35%

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 107.02 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาร่วงลง 4.21 ดอลลาร์ หรือ 3.78%

ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนในช่วงแรกของการซื้อขาย หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. เทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 80,000-90,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนหน้านี้ที่ระดับ 7.9%

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันถูกสกัด เมื่อมีการเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลงเกินคาดในเดือนธ.ค. สู่ระดับต่ำในรอบ 4 เดือน เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการขึ้นภาษีในปีหน้า

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ร่วงลงแตะ 74.5 จาก 82.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งตัวเลขล่าสุดเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.

นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การเจรจาเรื่องสถานการณ์การคลังกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังไม่มีความคืบหน้า พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.โอบามาจัดทำขอเสนอใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังวิตกกังวลอย่างมาก โดยนักเศรษฐศาสคร์เตือนว่า หากมีการขึ้นภาษีและลดงบประมาณรายจ่ายโดยอัตโนมัติในเดือนม.ค. เศรษฐกิจสหรัฐอาจหดตัวกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้ถูกกดดันจากแนวโน้มที่มืดมนของเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคในปีนี้และปีหน้าไปเพียงหนึ่งวัน เยอรมนีและออสเตรียต่างก็ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเช่นกัน โดยธนาคารกลางเยอรมนีถึงกับระบุว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2555 ลงสู่ระดับ 0.7% จากเดิมที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 1.0% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2556 จะขยายตัวเพียง 0.4% จากเดิมที่ 1.6%

บุนเดสแบงก์ระบุในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจรอบครึ่งปีว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจลดลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และช่วงต้นปีหน้า

รายงานชี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยของบางประเทศในยูโรโซน รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเตือนว่ายังมีความไม่แน่นอนสูง และการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจต่ำกว่าที่คาด

สำหรับในสัปดาห์หน้า นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 11-12 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ