สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 85.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.21-86.37 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 108.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.09-108.37 ดอลลาร์
กลุ่มโอเปคจะประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันประจำปี 2556 ในวันนี้ ขณะที่โอเปคได้ออกรายงานในช่วงก่อนหน้านี้ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปคลดลง 210,000 บาร์เรล แตะระดับ 30.78 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. โดยซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโอเปคได้ลดปริมาณการผลิตลง 230,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.49 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย.
โอเปคคาดว่า อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2556 จะทรงตัวอยู่ที่ 770,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2556 เป็น 960,000 บาร์เรล/วัน
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมซึ่งจะทราบผลในช่วงกลางดึกวันนี้ตามเวลาไทย ในขณะที่มาตรการ Operation Twist (การขายพันธบัตรระยะสั้นและเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลง) จะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล