สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 110.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 โดยระบุว่า จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ขยายตัว 1.6% และยอดส่งออกขยายตัว 1.9%
ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 17,000 ราย แตะที่ 361,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 357,000 ราย
นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556