สัญญา
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส
(WTI) เดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 เซนต์ แตะที่ 91.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 11.15 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อข่าวที่ว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ
สหรัฐเริ่มกลับมาเจรจาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดี
สหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของ
สหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส
สัญญา
น้ำมันดิบได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจการผลิตของอิตาลีในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 88.9 จาก 88.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนชาวอิตาลียังคงมีมุมมองในแง่ลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ
การเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่ Istat รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 85.7 จากระดับ 84.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดทำข้อมูลเมื่อเดือนม.ค.2539
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 950,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะขยับขึ้นแตะระดับ 91.6%
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--