ภาวะตลาดน้ำมันสหรัฐพ้นหน้าผาการคลัง หนุนน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.30

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 3, 2013 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) หลังจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายที่จะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หรือภาวะที่จะต้องมีการปรับขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายโดยอัตโนมัติ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 93.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 112.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 257 ต่อ 167 ผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังเมื่อวานนี้ตามเวลาไทย หลังจากที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสามารถประนีประนอมกันได้ในรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว

การลงมติดังกล่าวของสภาผู้แทนราษฎรมีขึ้นหลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 89 ต่อ 8 ผ่านร่างกฎหมายหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาไทย ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้มีการปรับขึ้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลลาร์ และครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เกิน 450,000 ดอลลาร์ อีกทั้งยังขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ผู้ว่างงานในระยะยาว

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50.6 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนพ.ย. โดยตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยมีรายงานว่าอิหร่านกำลังทำการซ้อมรบทางทะเลที่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในตะวันออกกลาง พร้อมกับขู่ว่าจะปิดช่องแคบแห่งนี้หากอิหร่านถูกโจมตีทางทหารอันเป็นผลมาจากโครงการนิวเคลียร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ