สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 93.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 92.42 - 93.35 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 111.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.54 - 111.67 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่าการขยายท่อส่งน้ำมันซีเวย์ของสหรัฐจะเสร็จสิ้นในวันศุกร์ที่ 11 ม.ค. ซึ่งการขยายท่อส่งน้ำมันแห่งนี้จะทำให้กำลังในการจัดส่งน้ำมันดิบออกจากตลาดกลางทวีปใกล้เมืองคุชชิงในรัฐโอกลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นน้ำมันแถบชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐได้มากยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน และ 400,000 บาร์เรลต่อวัน และจะช่วยลดภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดใกล้เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบตามสัญญาในตลาด NYMEX
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 7.8% ซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณการขยายตัวในตลาดแรงงานสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับรายงานที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณในปีนี้
ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งหลังสุดว่า สมาชิกคณะกรรมการบางคนอาจสนับสนุนให้ยุติโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรือที่รู้จักกันในชื่อ QE3 ในปี 2556 นี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%