สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 93.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 92.68-93.65 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.11-112.23 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. พุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 361.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 7.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 233.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 130.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2556 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% ภายในเวลาสองปี ก่อนหน้านี้การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดว่าอีซีบีจะประกาศตรึงดอกเบี้ยในระหว่างการประชุม