สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 95.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2555 หลังจากที่เคลื่อนตัวในช่วง 96.04 - 93.80 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 111.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในแอลจีเรีย โดยล่าสุดมีรายงานจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของแอลจีเรียว่า ตัวประกัน 30 คน ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 คน ได้เสียชีวิตในระหว่างที่กองกำลังทหารแอลจีเรียบุกเข้าโจมตีโรงงานก๊าซธรรมชาติทางตะวันออกเฉียงใต้ของแอลจีเรีย ซึ่งกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในเครือข่ายอัล-เคดาได้ยึดโรงงานดังกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสหรัฐรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ม.ค. ปรับตัวลง 37,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 และเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ขณะเดียวกันสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 12.1% แตะที่ 954,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 890,000 ยูนิต/ปี และเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 903,000 ยูนิต ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง