สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับลง 7 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 95.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเคลื่อนไหวที่ระดับ 95.43 - 96.56 ดอลลาร์ ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญา WTI เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.33%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดทรงตัวที่ 113.28 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาเบรนท์พุ่งขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 0.33%
ตลาดน้ำมันสหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ร่วงลง 7.3% สู่ระดับ 369,000 หลัง จากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนพ.ย. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายเดือนที่แล้วจะอยู่ที่ราว 340,000 - 406,000 หลัง ส่วนยอดขายในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 377,000 หลัง
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่เพิ่มสูงขึ้นก็ยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.81 ล้านบาร์เรล แตะที่ 363.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 บาร์เรล และสูงกว่าระดับของปีก่อนอยู่ 8.5%
ขณะเดียวกันเอ็นเทอร์ไพรส์ โปรดัก พาร์ทเนอร์ส เผยว่ายังไม่มีกำหนดว่าท่อส่งน้ำมันซีเวย์จะกลับมาดำเนินการส่งน้ำมันได้อย่างเต็มกำลังเมื่อไหร่ โดยท่อส่งนี้เชื่อมระหว่างเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา กับ ศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันแถบชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ การขนส่งน้ำมันที่ลดลงอาจจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบตามสัญญาในตลาด NYMEX ปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรช่วยพยุงตลาดน้ำมันได้อยู่บ้าง เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ และช่วยกระตุ้นแรงซื้อ
ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบยูโร ซึ่งได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนม.ค. โดยวานนี้สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 104.2 จาก 102.4 ในเดือนธ.ค.
ดัชนีเดือนม.ค.สูงกว่าระดับ 103 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสขึ้นของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยุโรป
สำหรับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งเป็นภูมิภาคส่งออกน้ำมันหลักของโลกนั้น มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยนักลงทุนจับตาสถานการณ์การประท้วงในอียิปต์และการพุ่งเป้าโจมตีแหล่งน้ำมันในลิเบีย