สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 97.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 2555
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 114.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2555
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรับ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนพ.ย. โดยนายเดวิด บลิทเซอร์ ประธานฝ่ายจัดทำดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์สกล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าภาคธุรกิจนี้จะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2556
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนพ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 5.5%
อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกสกัดลงในระหว่างวัน ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจาก Conference Board รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนม.ค.ร่วงลงแตะ 58.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย.2554 และเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 ในคืนนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2555 เมื่อเทียบกับการขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 3/2554
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งเช่นกันในเดือนธ.ค. และอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค.