สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 97.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ ปิดที่ 118.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.พ. ร่วงลง 27,000 ราย แตะระดับ 341,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 360,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ การเจรจาประเด็นนิวเคลียร์ในรอบที่ 2 ระหว่างสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) และอิหร่าน ยังไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา ซึ่งส่งผลจำกัดการพุ่งขึ้นของสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า จีดีพีของกลุ่มยูโรโซนหดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และเมื่อเทียบเป็นรายปี จีดีพียูโรโซนหดตัว 0.9% เนื่องจากการหดตัวของเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี
โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสหดตัวลง 0.3% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่จีดีพีเยอรมนีในไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.6% จากไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และจีดีพี เบื้องต้นของอิตาลีในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่าจีดีพีในไตรมาส 4/2555 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.6% เนื่องจากยอดส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัวลง