ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 80 เซนต์หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัว

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 20, 2013 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก อันเป็นผลมาจากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการหดตัวลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 96.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากคลื่อนตัวในช่วง 95.25-96.73 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 117.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขานรับข่าวบริษัทออฟฟิศ ดีโป ผู้จำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานรายใหญ่อันดับ 2 และออฟฟิศแม็กซ์ อิงค์ ได้หารือเรื่องการควบรวมกิจการกัน เพื่อแข่งขันกันคู่แข่งรายใหญ่อันดับหนึ่งอย่างบริษัทสแตปเปิลส์

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 48.2 จาก 31.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ดัชนีจะปรับตัวขึ้นแตะที่ระดับ 35 ในเดือนก.พ.

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับปัจจัยลบหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐอยู่ที่ระดับ 46 ในเดือนก.พ. ลดลง 1 จุด จากระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 47 ในเดือนม.ค. และเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 48

ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า กลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองต่อตลาดที่อยู่อาศัยในเชิงลบมากกว่าในเชิงบวก โดยดัชนียังไม่เคยปรับตัวเหนือระดับ 50 มานับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ