ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.20 หลังเฟดแตกคอกรณีโครงการซื้อบอนด์

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 21, 2013 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับโครงการซื้อพันธบัตร ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะยุติโครงการดังกล่าวก่อนที่อัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมี.ค.ร่วงลง 2.20 ดอลลาร์ หรือ 2.28% ปิดที่ 94.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 115.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กร่วงลงหลังจากรายงานการประชุมของเฟดส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับระยะเวลาและปริมาณการซื้อพันธบัตร โดยกรรมการบางคนของเอฟโอเอ็มซีกล่าวว่า โครงการซื้อพันธบัตรอาจจำเป็นต้องยุติก่อนที่อัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5%

ตลาดได้รับปัจจัยลบมากขึ้นจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียอาจจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน หลังจากที่คุมเข้มการผลิตในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2555

นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านหดตัวลง 8.5% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 890,000 ยูนิต ซึ่งร่วงลงหนักกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ เนื่องจากการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวขยายร่วงลงถึง 24.1% ในเดือนดังกล่าว

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ