นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาน้ำมันยังเผชิญแรงกดดัน หลังจากที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในเดือนที่แล้วและมีแรงซื้อเก็งกำไรอย่างคึกคัก แต่ในขณะนี้สถานการณ์ในตลาดน้ำมันปรับตัวในทิศทางตรงกันข้าม
ตลาดน้ำมันเผชิญกระแสความกังวลที่ว่าการปรับลดรายจ่ายอัตโนมัติของรัฐบาลกลางสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งเพื่อเริ่มบังคับใช้มาตรการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล วงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์
การลงนามดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติ โดยตัวแทนจากพรรคเดโมเครตเรียกร้องให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ขณะที่ทางพรรครีพับลีกันคัดค้านการเก็บภาษีเพิ่ม
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีแรงถ่วงจากข้อมูลภาคบริการจีนที่ชะลอลง โดยสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนก.พ.ชะลอตัวลงแตะ 54.5 จาก 56.2 ในเดือนม.ค. และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา