สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.22-91.73 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 111.15 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.41-111.40 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 มี.ค.ลดลง 7,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 355,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินสกุลดอลลาร์ในตระกร้าเงินเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 82.064 จุดเมื่อวานนี้ จากระดับของวันอังคารที่ 82.490 จุด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขานรับอีซีบีที่ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายความตึงเครียดในตลาดการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค และตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นภายในปีนี้
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.9% ในเดือนก.พ.