สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือนมี.ค.อ่อนแรงลงมาอยู่ที่ 51.0 จาก 53.3 ในเดือนก.พ. และดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.5 จาก 47.9 ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 มี.ค. เพิ่มขึ้น 2,000 ราย แตะระดับ 336,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 345,000 ราย
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าอุปสงค์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค.ร่วงลง 1.31 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 382.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 672,000 บาร์เรล สู่ระดับ 119.8 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 1.48 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 222.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 2.5% สู่ระดับ 83.5% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะทรงตัวที่ 81%