ในวันนี้ ไซปรัสได้บรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโรกับสหภาพยุโรป (อียู) โดยเห็นพ้องกันว่าไซปรัสจะระดมทุน 5.8 พันล้านยูโรด้วยตัวเองผ่านทางการปฏิรูประบบการธนาคารและการจัดเก็บภาษีเงินฝากธนาคาร ขณะที่รัฐบาลไซปรัสจะปรับโครงสร้างธนาคารในประเทศรายใหญ่ 2 แห่ง และจะกำหนดมาตรการจัดเก็บภาษีแบบครั้งเดียวสำหรับเงินฝากธนาคารที่มีวงเงินจำนวนมาก ขณะที่เงินฝากจำนวนไม่เกิน 100,000 ยูโรจะได้รับการคุ้มครองเต็มจำนวน
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีคลังยูโรโซนก็ได้อนุมัติข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การจัดสรรเงินกู้วงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์) และจะทำให้ไซปรัสกลายเป็นประเทศสมาชิกยูโรโซนอีกประเทศหนึ่งที่รับความช่วยเหลือทางการเงินนับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตหนี้สินในกรีซเมื่อปี 2552
นักวิเคราะห์กล่าวว่าตลาดได้คลายกังวลเกี่ยวกับไซปรัสลงเล็กน้อย ขณะที่คาดว่าการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจโลกจะช่วยหนุนความต้องการน้ำมัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นไซปรัสหรือประเทศอื่นๆ ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ก็จะเคลื่อนไหวในเชิงบวกมากขึ้น