สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 97.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 110.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2556 ครั้งสุดท้ายในวันนี้ โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัว 0.4% สูงกว่าการประมาณการครั้งก่อนที่ 0.1%
นอกจากนี้ นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารในไซปรัสเปิดทำการอีกครั้งเป็นวันแรกในวันนี้ หลังจากที่ปิดทำการไปตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามประกาศของกระทรวงคลังไซปรัส ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนอีกด้านหนึ่งจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มี.ค.พุ่งขึ้น 3.26 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 4.51 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล