ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลดลง 56 เซนต์ หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Saturday April 6, 2013 07:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ซบเซาของตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับความต้องการพลังงานในประเทศเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่สุดของโลกและมีการใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 92.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.22 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ที่ระดับ 104.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 88,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000-200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 7.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 7.7.% ในเดือนก่อนหน้านี้

การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรล่าสุดนี้บ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ช้าลงในตลาดแรงงานก่อนที่สหรัฐจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งพุ่งขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 350,000 ราย

ด้าน ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 190,000-200,000 ตำแหน่ง

ข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ออกมาน่าผิดหวังนั้นได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสหรัฐ และอุปสงค์น้ำมัน

โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.71 ล้านบาร์เรล แตะที่ 388.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล

สำหรับในสัปดาห์หน้า ความสนใจของนักลงทุนจะหันไปอยู่ที่การเปิดเผยงบการเงินของบริษัทเอกชนซึ่งจะเริ่มเปิดฉากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ