สัญญายางส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด TOCOM พุ่งขึ้น 3.7% แตะ 280.3 เยนต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ก่อนขยับลงมาซื้อขายที่ 277.9 เยน เมื่อเวลา 10.58 น.ตามเวลาโตเกียว
เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เพื่อจัดการกับปัญหาเงินฝืด
คณะกรรมการบีโอเจมีมติว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท รวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี พร้อมกับขยายโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนในปัจจุบันไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี นอกจากนี้ บีโอเจจะซื้อกองทุน ETF วงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อกองทุน REIT วงเงิน 3 หมื่นล้านเยนต่อปี พร้อมกับจะระงับ "หลักการธนบัตร (banknote principle)" ซึ่งเคยห้ามไม่ให้บีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลมากกว่ามูลค่าของธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ
ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาการประชุมระหว่างไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก ระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย.นี้ที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขยายเวลาลดการส่งออกยาง โดยทั้งสามประเทศได้ลดการส่งออกยางลง 300,000 ตันในช่วงระยะเวลา 6 เดือนจนถึงเดือนมี.ค. หลังสัญญายางดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 205.6 เยน เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว