ทั้งนี้ โอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ครั้งที่แล้วประมาณ 40,000 บาร์เรลต่อวัน
ก่อนหน้านี้กลุ่มโอเปคได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการทบทวนปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2556 เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในยูโรโซนและสหรัฐ
“การขยายตัวของอุปสงค์เผชิญความเสี่ยงขาลงหลายประการ ความไร้เสถียรภาพของยูโรอาจจะนำไปสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน" โอเปกคาดในรายงานประจำเดือน โดยระบุว่ามีความเสี่ยงขาลงหลายประการต่อการขยายตัวด้านการบริโภค ซึ่งรวมถึงผลกระทบที่อาจจะมีขึ้นจากการปรับลดงบประมาณอย่างเต็มรูปแบบในสหรัฐ
กลุ่มโอเปคผลิตน้ำมันดิบในปริมาณ 30.31 ล้านบาร์เรลในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจาก 30.24 ล้านบาร์เรลในเดือนม.ค. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 เนื่องจากซาอุดิอาระเบียและอิรักผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
โอเปคระบุในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนว่า ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของโลก เพิ่มการผลิตเป็น 9.12 ล้านบาร์เรล/ต่อวัน ในเดือนก.พ. จาก 9.08 ล้านบาร์เรลในเดือนก่อนหน้า
ด้านอิรักได้เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ประเทศสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่า 3 ล้านบาร์เรล/วันได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 2 เท่าในช่วงเวลา 3 ปีต่อจากนี้
โอเปคยังได้ประมาณการว่า อุปทานน้ำมันของสหรัฐในปีนี้จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี โดยคาดว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้น 580,000 บาร์เรล/วัน สู่ปริมาณเฉลี่ยที่ 10.59 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2528
ทั้งนี้ สมาชิก 12 ประเทศของกลุ่มโอเปคมีกำหนดประชุมร่วมกันที่กรุงเวียนนาในวันที่ 31 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการผลิต หลังจากที่มีมติคงเป้าหมายการผลิตโดยรวมของกลุ่มที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว