สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 89.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 100.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากเอชเอสบีซีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ลดลงแตะ 50.5 ในเดือนเม.ย. จาก 51.6 ในเดือนมี.ค. โดยระบุว่าอุปสงค์ที่อ่อนแอและกำลังการผลิตที่ล้นตลาดทำให้บริษัทต่างๆของจีนไม่ต้องการลงทุนมากนัก
การเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตล่าสุดยิ่งเป็นการเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อน สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเพิ่งเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวชะลอลงแตะ 7.8% ในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงลบ เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในประเทศดีดตัวขึ้น 1.5% สู่ระดับ 417,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. หลังจากที่ลดลงแตะ 411,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ของปีที่แล้ว ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 18.5% ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นในเดือนก.พ. โดยดัชนีราคาบ้านรายเดือนของ FHFA แสดงให้เห็นว่า ราคาบ้านในเดือนก.พ. สูงขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย.ในวันนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นราว 0.5-0.6%