ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดเพิ่ม $1.62 หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานสูงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Saturday May 4, 2013 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงอุปสงค์พลังงานที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นหากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 95.61 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างวันสัญญาปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงที่ 96.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 104.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

นอกจากนี้ อัตราการจ้างงานเดือนก่อนหน้านี้ยังได้รับการปรับทบทวนขึ้นมาเป็น 138,000 ตำแหน่ง เทียบกับรายงานเบื้องต้นที่ 88,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ การจ้างงานเพิ่มขึ้นในหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงภาคการขนส่ง สาธารณูปโภค ค้าปลีก และบริการด้านสุขภาพ ซึ่งทำให้จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่มีงานทำลดลงจาก 11.74 ล้านคนในเดือนมี.ค. มาอยู่ที่ 11.66 ล้านคนในเดือนเม.ย.

รายงานการจ้างงานล่าสุดช่วยสนับสนุนหลักฐานที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น และสำหรับนักลงทุนในตลาดน้ำมันแล้ว รายงานดังกล่าวช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์น้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงอื่นๆจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. พุ่งขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 395.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 950,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 474,000 บาร์เรล แตะที่ 115.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 250,000 บาร์เรล ซึ่งหากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง สต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเหล่านี้ก็น่าจะเริ่มปรับตัวลดลง

การดีดตัวของราคาน้ำมันในระยะนี้เป็นผลมาจากการที่ตลาดมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจที่จะกระตุ้นการขยายตัว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อีซีบีได้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.5% ขณะที่เฟดประกาศคงนโยบายที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวันพุธ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ